Startup Thailand EN

ปั้นสตาร์ตอัปไทยสู่ภูมิภาค บทเรียนจากผู้ผลักดัน

สตาร์ตอัปกว่า 1,000 ราย สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

     หนึ่งในไฮไลท์ของเวที Global Stage ภายในงาน SITE 2025 กับ Fireside Chat หัวข้อ “From Thailand to Regional: Lessons from Enabling 1,000+ Startups Across Southeast Asia” โดย Thaddeus Koh ผู้ร่วมก่อตั้ง e27 แพลตฟอร์มสนับสนุนสตาร์ตอัปและระบบนิเวศเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาค 

ตลอดเวลากว่า 11 ปี e27 ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการ นักลงทุน และหน่วยงานในระบบนิเวศเข้าหากัน โดยมีภารกิจหลัก 2 ด้านคือ 

  1. ให้ข้อมูลและความรู้กับผู้ก่อตั้ง สตาร์ตอัปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาค 
  2. เชื่อมโยงคนในระบบนิเวศเข้าหากัน ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ตอัปกับลูกค้า พาร์ตเนอร์ หรือแม้แต่หน่วยงานรัฐในแต่ละประเทศ 

ความหลากหลายคือจุดเริ่มต้นของความเข้าใจ 

     Thaddeus เน้นว่า การขยายตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ใช่เรื่องของการลุยทุกประเทศเหมือนกันเพราะแม้อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน แต่วัฒนธรรม กฎระเบียบ พฤติกรรมผู้บริโภค และวิธีการทำธุรกิจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น ในสิงคโปร์ ซอฟต์แวร์สามารถขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย แต่ในอินโดนีเซีย ต้องเจอหน้าพูดคุยกันจริงจังถึงจะปิดการขายได้ การเข้าใจบริบทท้องถิ่นจึงเป็นหัวใจสำคัญของการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับแต่ละประเทศ 

ไม่ใช่หาแต่เงินทุน แต่ต้อง “หาลูกค้าให้เจอก่อน” 

     สิ่งที่ Tedesco กล่าวไว้ชัดเจน คือ ไม่ว่าคุณจะขายกาแฟหรือทำแพลตฟอร์ม AI ถ้ายังหาลูกค้าไม่ได้ ก็ไปต่อไม่ได้”  และย้ำเตือนว่า สิ่งที่ทำให้สตาร์ตอัปล้มเหลวในการขยายไปยังตลาดภูมิภาคคือ การไม่เข้าใจลูกค้าและตลาด หลายคนโฟกัสที่การหาทุน แต่ความจริงแล้วรายได้จากลูกค้าคือสิ่งที่ยั่งยืนกว่าการระดมทุน 

การหาทุนอย่าหวังแต่ VC แต่ต้องมีรายได้จากลูกค้าก่อน 

     ในยุคที่การระดมทุนยากขึ้น นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น และมองหาบริษัทที่มี รายได้จริง Thaddeus แนะนำว่า ไม่ใช่ทุกบริษัทต้องพึ่ง VC 

“VC ต้องการหุ้นคุณ ซึ่งแลกมาด้วยเวลาและกระบวนการที่ซับซ้อน แต่หากคุณสามารถสร้างรายได้จากลูกค้า นั่นคือทางรอดระยะยาวที่มั่นคงกว่า”  

 

เลือกใช้จุดแข็งของแต่ละประเทศสร้างทีมระดับภูมิภาค 

Thaddeus ยกตัวอย่างกลยุทธ์ของ e27 ที่ใช้ทีมจากหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น 

  • – ไทย: เหมาะกับทีมพัฒนา ค่าจ้างไม่สูง 
  • – สิงคโปร์: เหมาะกับฝ่ายขายและขยายเครือข่ายระดับสากล 
  • – เวียดนาม / ฟิลิปปินส์: มีแรงงานคุณภาพในราคาที่แข่งขันได้ 

การเข้าใจต้นทุนและศักยภาพของแต่ละพื้นที่จะช่วยสตาร์ตอัปขยายทีมอย่างชาญฉลาด 

ภาครัฐคือด่านแรกของการออกสู่ต่างประเทศ 

     อีกหนึ่งข้อคิดที่น่าสนใจคือ บทบาทของภาครัฐที่ควรเป็นผู้เปิดประตูให้สตาร์ตอัปไทย 

  • – ภาครัฐมีเครือข่าย และสามารถเชื่อมโยงกับผู้เล่นในระบบนิเวศได้ 
  • – ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีอิทธิพลในการสร้างความเชื่อมั่น 

หลังจากนั้น จึงค่อยสร้างความสัมพันธ์กับภาคเอกชน ซึ่งอาจกลายเป็นลูกค้าหรือพาร์ตเนอร์ได้ในระยะยาว 

เป้าหมายระยะยาวต้องทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดเดียวกัน 

     Thaddeus อยากเห็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีลักษณะคล้ายกับสหรัฐอเมริกาที่แม้จะมีหลายรัฐ แต่สามารถใช้กฎหมายกลางและขายสินค้าหรือบริการแบบเดียวกันทั่วประเทศ 

ถ้าเราทำให้ Southeast Asia เชื่อมโยงกันเหมือนเป็นตลาดเดียว บริษัทจากญี่ปุ่นหรือเกาหลีจะมองเห็นศักยภาพมหาศาลทันที 

สตาร์ตอัปไทยอย่ารอให้ใครเปิดประตู แต่จงเดินไปเคาะเอง 

     การขยายธุรกิจจากไทยสู่ภูมิภาคไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว สิ่งสำคัญคือ 

  • – ต้องรู้จักลูกค้า 
  • – เข้าใจตลาดและวัฒนธรรม 
  • – ใช้เครือข่ายที่มีอยู่ให้เต็มที่ 
  • – และสำคัญที่สุดคือ สร้างรายได้ก่อนการระดมทุน 

ในโลกของสตาร์ตอัปไม่มีทางลัด มีแต่ความกล้าที่จะเริ่มต้น เพราะถ้าเราไม่เดินออกไป ไม่มีวันรู้ว่าประตูบานไหนกำลังรอเราอยู่ 

Shopping Basket