Startup Thailand | EN |
AI x Sustainability: โอกาสใหม่ของสตาร์ตอัปไทย
บนเวทีโลกที่ต้องคว้า
“AI และ Sustainability คือ เทรนด์ระดับโลกที่เราทุกคนต้องทำความเข้าใจและนำมาปรับใช้” เป็นคำกล่าวเปิดงานของ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ในเวทีเสวนา AI and Sustainability on a Global Stage: Trends, Impacts and Opportunities ที่จุดประกายให้ผู้ประกอบการ สตาร์ตอัปไทยตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายครั้งใหญ่ ในยุคที่เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นหลักที่โลกกำลังขับเคลื่อน
ดร.กริชผกา ชี้ว่า AI และ Sustainability หรือความยั่งยืน คือคำที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวทีนวัตกรรมระดับโลก และจะกลายเป็น The Next Era of Innovation ที่ SME และภาคอุตสาหกรรมไทยต้องปรับตัวให้สอดรับ “เราต้องหาทางนำสองสิ่งนี้มาใช้พัฒนาธุรกิจ ให้ตอบโจทย์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยังรักษ์โลกไปพร้อมกัน และสามารถแข่งขันบนเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน”
AI: จากเครื่องมือสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่
คุณปริวรรต วงศ์สำราญ รองผู้อำนวยการ ด้านระบบนวัตกรรม NIA ชี้ให้เห็นว่า AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น เครื่องมือสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในวงการแพทย์ การเกษตร การเงิน การผลิต ไปจนถึงภาคบริการ
เดิมการแข่งขันในธุรกิจมักอยู่ที่ความเร็วและความเชี่ยวชาญของเทคโนโลยี แต่ปัจจุบัน การแข่งขันอยู่ที่ว่าใครจะใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม หรือการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แม้ว่าปัจจุบันในไทยจะมีสตาร์ตอัปที่พัฒนาโซลูชัน AI เพียงไม่กี่ร้อยราย แต่ตลาดยังเปิดกว้างอย่างมากสำหรับธุรกิจใหม่ เช่น Virtual Bank ที่ต้องอาศัย AI ในการวิเคราะห์เครดิตและให้บริการลูกค้า หรืออุตสาหกรรมที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตัดสินใจ AI สามารถช่วยสร้างมูลค่าใหม่และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ทันที
Sustainability: จาก CSR สู่ความจำเป็นทางธุรกิจ
โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนมุมมองจากความยั่งยืนที่เคยเป็นเพียงกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ให้กลายเป็น ความจำเป็นเชิงกลยุทธ์ หากธุรกิจไทยต้องการส่งออกสินค้าไปยุโรป หรือเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานระดับโลก จะต้องเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมและวางแผนลดการปล่อยคาร์บอนอย่างชัดเจนตาม กฎ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism)
นั่นหมายความว่า ความยั่งยืนไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ต้องมี ธุรกิจที่สามารถผนวกแนวคิด Sustainability เข้ากับกระบวนการทำงานและกลยุทธ์ จะสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก
AI + Creativity: ผนึกกำลังสร้างแบรนด์ไทยสู่เวทีโลก
ดร.ชาญวิทย์ บุญช่วย นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIEAT) มองว่า โอกาสสำคัญของไทย คือการเป็น “ผู้พัฒนา AI” ไม่ใช่เพียงผู้ใช้เทคโนโลยี แต่ต้องสร้าง Use Case และนวัตกรรมที่มีผลกระทบสูง
AI ในปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่เพียงจัดการข้อมูล แต่ยังมีพลังในการ สร้างสรรค์ ลดภาระ ลดต้นทุน และประหยัดเวลา ช่วยให้ธุรกิจต่อยอดโซลูชันเดิมหรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด การใช้ AI อย่างชาญฉลาด คือการนำจุดแข็งที่มีอยู่แล้วมาขยายผลให้ธุรกิจเติบโตและยั่งยืน
ก้าวให้เร็ว… แต่ต้องก้าวให้ถูกทาง
AI และ Sustainability ไม่ใช่เทรนด์ที่มองข้ามได้อีกต่อไป แต่เป็น โอกาสและความท้าทายเชิงยุทธศาสตร์ ที่ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญไปพร้อมกัน
หากผู้ประกอบการไทยมองให้ไกล ลงมือทำจริงจัง และผนวก AI เข้ากับความยั่งยืน ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงผู้ตามโลก แต่สามารถ เป็นผู้สร้างนวัตกรรมที่โลกจับตามอง ได้
ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจไทย โดยเฉพาะ สตาร์ตอัป ต้องกล้าที่จะ มองให้ไกล ก้าวไปข้างหน้า และลงมือทำอย่างกล้าหาญ ด้วย AI ที่ชาญฉลาด และ เป้าหมายที่ยั่งยืน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงในประเทศ แต่บนเวทีโลก