Startup Thailand EN

เปิดประตูสู่เอเชียฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

กับโอกาสใหม่ของสตาร์ตอัปไทย 

     ในยุคที่พรมแดนทางธุรกิจถูกทำลายด้วยเทคโนโลยีและโอกาสระดับโลก การเลือก “จุดเริ่มต้น” จึงสำคัญไม่แพ้ความฝันของสตาร์ตอัปไทย เวที Global Startup Hub : Gateway to Asia จึงไม่ใช่แค่การรวมตัวของหน่วยงานระดับประเทศจากฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แต่คือโอกาสครั้งใหญ่ที่พาผู้ประกอบการไทยไปสู่เวทีโลก ผ่านการสนับสนุนแบบจริงจัง ได้ลงมือจริง และเชื่อมต่อกับผู้เล่นตัวจริงในระบบนิเวศสตาร์ตอัปเอเชีย 

ฮ่องกง จุดเริ่มต้นของการเติบโตระดับภูมิภาคสำหรับสตาร์ตอัปไทย 

     ฮ่องกงยังคงเป็นหนึ่งในประตูสำคัญสู่ภูมิภาคเอเชีย ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนและสตาร์ตอัปจากต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยรัฐบาลฮ่องกงให้การสนับสนุนผ่านหน่วยงานอย่าง Invest Hong Kong และสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำกรุงเทพฯ ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายในทุกขั้นตอน ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจ แต่ครอบคลุมถึงความร่วมมือทางวัฒนธรรม การศึกษา และการแลกเปลี่ยนในรูปแบบต่าง ๆ 

     เศรษฐกิจของฮ่องกงแม้เคยเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในปัจจุบันกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย GDP ในปีที่ผ่านมาโตขึ้น 2.5% และยังคงขยายตัวได้ในไตรมาสแรกของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศกลับมาฟื้นตัวและมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกที่ยังมองว่าฮ่องกงคือศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อีกทั้งประชากรยังมีกำลังซื้อสูง เห็นได้จากการบริโภคสินค้าพรีเมียมจำนวนมาก จึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่มีสินค้าคุณภาพสามารถเจาะเข้าสู่ตลาดนี้ได้   

     ในด้านของสตาร์ตอัป ฮ่องกงเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2020 มีเพียง 3,300 ราย แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็นกว่า 4,700 ราย และมีเป้าหมายจะขยายถึง 7,000 รายภายในปี 2030 กลุ่มธุรกิจหลักคือ FinTech, ICT และ e-Commerce โดยหนึ่งในสามของสตาร์ตอัปเหล่านี้ก่อตั้งโดยชาวต่างชาติ สะท้อนถึงความเป็นศูนย์กลางของการสร้างธุรกิจใหม่ในระดับภูมิภาค นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นทางผ่านสำคัญสำหรับการขยายธุรกิจไปยังตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ (Mainland China) และมีจุดแข็งด้านการระดมทุน โดยเฉพาะในกลุ่ม FinTech ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ฮ่องกงยังไม่มีมาตรการควบคุมเงินทุนและเป็นเขตปลอดภาษี (Tax-Free) โดยมีธนาคารกว่า 180 แห่ง และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Firms) กว่า 1,500 แห่ง รัฐบาลฮ่องกงยังสนับสนุนการจัดตั้งสำนักงานครอบครัว (Family Office) อย่างน้อย 200 แห่งภายในปี 2025 เพื่อส่งเสริมให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางบริหารความมั่งคั่งระดับนานาชาติ โดยมีมาตรการยกเว้นภาษีจากผลกำไรสำหรับสำนักงานครอบครัวประเภทครอบครัวเดียว (Single Family Office) อีกทั้งฮ่องกงยังเป็นมิตรต่อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตด้วยเนื่องจากมีการอนุญาตให้ดำเนินการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่างถูกกฎหมาย   

     แม้ฮ่องกงจะไม่สามารถผลิตอาหารเองได้ แต่ภาคอุตสาหกรรมอาหารกลับเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากคนฮ่องกงไม่นิยมทำอาหารที่บ้านและชอบทานอาหารนอกบ้าน ส่งผลให้มีร้านอาหารเกิดขึ้นจำนวนมาก เทียบเท่ากับจำนวนร้านอาหารในประเทศไทย ทั้งที่ฮ่องกงมีพื้นที่เล็กกว่ามาก ด้วยมูลค่าตลาดอาหารและร้านอาหารที่สูง ทำให้มีความต้องการวัตถุดิบ (Goods Supply) และนวัตกรรมด้านการบริหารจัดการร้านอาหาร (Management System) และบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ฮ่องกงเป็นตลาดที่เหมาะสมสำหรับสตาร์ตอัปด้าน FoodTech ที่ต้องการขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ 

     ในส่วนของแหล่งทุน ฮ่องกงมีโปรแกรม Accelerator ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น Cyberport มุ่งเน้นกลุ่ม FinTech, Web3.0, MarTech, และ PropTech ส่วน Hong Kong Science Park มุ่งเน้นกลุ่ม MedTech/HealthTech และ Brinc (Venture Accelerator) จะเห็นว่าหน่วยงานเหล่านี้ให้การสนับสนุนแก่สตาร์ตอัปในหลากหลายสาขา ทั้งด้านการเงิน เทคโนโลยีสุขภาพ และอาหาร โดยไม่จำกัดสัญชาติของผู้ก่อตั้ง สำหรับสตาร์ตอัปที่มีความพร้อมในระดับ Series A หรือ B ยังสามารถขอคำแนะนำแบบเฉพาะบุคคลจาก Invest Hong Kong เพื่อเชื่อมต่อกับ VC และ Family Office ในฮ่องกงได้โดยตรง 

     นอกจากนี้ ฮ่องกงยังจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ อาทิเช่น  Hong Kong FinTech Week และ Start Me Up Festival เพื่อเชื่อมโยงสตาร์ตอัปเข้ากับนักลงทุนจากทั่วโลก ซึ่งในปีนี้ครบรอบ 10 ปีของ Invest Hong Kong งานในปีนี้จึงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา และมีการแข่งขัน Global Fast Track โดยจัดรอบคัดเลือกในประเทศไทย เปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปไทยได้นำเสนอผลงานในเวทีระดับโลก ด้วยระบบเศรษฐกิจที่เปิดเสรี ความพร้อมด้านทุน และโอกาสทางการตลาดที่หลากหลาย ดังนั้น ฮ่องกงจึงเป็นมากกว่าศูนย์กลางทางการเงิน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจไทยในระดับนานาชาติอย่างแท้จริง 

Shopping Basket