Startup Thailand
TH / EN
• สตาร์ตอัพไทยเก่ง พัฒนา ระบบ AI แผนที่ 3 มิติและระบุตำแหน่งด้วยภาพ ช่วยตอบโจทย์สังคมและผู้คนได้หลากมิติ
• เผยจุดเด่น AI ที่พัฒนาขึ้น สามารถระบุตำแหน่งด้วยภาพ ให้ความละเอียดระดับเซนติเมตร
• แม่นยำกว่า ระบบ GPS ถึง 5 เท่า ทั้งยังนำไปใช้กับการนำทางด้วย AR ในจุดซับซ้อน เช่น อาคาร หรือห้างสรรพสินค้า ได้ดี
หลายคนคุ้นชินกับการใช้ ‘ระบบระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียม’ หรือ GPS นำทาง ซึ่งประสบการณ์การใช้ของแต่ละคนกล่าวได้ว่า แตกต่างกันไป โดยมีจำนวนมากที่ถึงจุดหมายโดยเรียบร้อย แต่ก็มีไม่น้อยที่มีเหตุให้ต้อง ‘หลงจุดหมาย’ ซึ่งในข้อผิดพลาด เป็นไปได้ทั้งเรื่อง สภาพอากาศและสภาพภูมิทัศน์ เนื่องจากการรับ-ส่ง สัญญาณ GPS เป็นการส่งในรูปสัญญาณวิทยุ ดังนั้น หากสภาพอากาศไม่ดี เช่น วันฟ้าปิด มีเมฆมาก มีพายุ ฝนฟ้าคะนอง รวมทั้งกรณีที่อยู่ในที่อับสัญญาณ เช่น อยู่ในบริเวณอาคาร หรือใต้ทางด่วนต่างๆ จะมีผลทำให้สัญญาณจากตำแหน่งที่รับค่าได้นั้น คลาดเคลื่อน ระดับ ‘หลายเมตร’ ส่งผลให้ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ที่ซอฟท์แวร์นั้นผิดไป จนทำให้การนำทางผิดเพี้ยนไปจากเส้นทางที่ควรจะเป็นด้วย
อีกด้านเป็นเรื่อง ‘ซอฟท์แวร์’ ฉลาดมากน้อยเพียงใดในการระบุตำแหน่ง เพราะปัจจุบันเราจะเห็นภาพการใช้งานในลักษณะ ‘ผู้ใช้และเทคโนโลยี (GPS)’ ต่างต้องเป็นตัวช่วยซึ่งกันและกัน ในที่นี้ หมายถึง ผู้ใช้ก็ต้องพอรู้เส้นทางที่กำลังจะไปด้วย เพื่อเผื่อเวลาแก้ปัญหาทัน เมื่อระบบนำทางผิดเพี้ยน ขณะที่อีกส่วน ยังเป็นเพราะ ‘แผนที่ ไม่มีการอัพเดท’ ดาต้าที่รายงานมายังเรา จึงยังเป็นข้อมูลเดิมๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม การศึกษาเส้นทางล่วงหน้า จะช่วยให้เปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดลดลงตามไปด้วย เพราะอย่างน้อยเทคโนโลยี GPS ก็ช่วยได้มาก สำหรับผู้ยังไม่มีตัวเลือกอื่น
Grafity ระบบระบุตำแหน่งด้วยภาพ แม่นยำระดับ ‘เซ็นติเมตร’
แน่นอนว่า ยุคเทคโนโลยีที่เข้ามารัวๆ คนไทยก็เก่ง อย่างสตาร์ตอัพ Graffity (deep tech startup) กำลังมาเป็นตัวช่วยที่สำคัญ โดยการพัฒนาการเข้าถึงจุดหมายอย่างแม่นยำ ‘รู้ลึก’ แม้กระทั่ง อาคาร-ห้าง ที่มีความซับซ้อน !!! … นี่จึงเป็นตัวช่วยอย่างดี ของทุกคน ซึ่งแม้จะไม่เคยไป ณ จุดนั้นมาก่อน ระบบนำทาง แผนที่สามมิติและระบุตำแหน่งด้วยภาพ Graffity ก็จะเป็นตัวช่วยได้เป็นอย่างดี
ถาวร กังวานสิงหนาท ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการ (Co-founder & CEO) บริษัท กราฟฟิตี้ เทคโนโลยี จำกัด เผย เทคโนโลยีนี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘ระบบ AI แผนที่ 3 มิติและระบุตำแหน่งด้วยภาพ’ (AI-powered 3D Mapping & Positioning System) โดยจุดเด่นของเทคโนโลยี คือ AI ที่เราพัฒนา สามารถระบุตำแหน่งด้วยภาพ ซึ่งมีความละเอียดในระดับเซนติเมตร มีความแม่นยำกว่า GPS ถึง 5 เท่า โดยสามารถนำไปใช้กับการนำทางด้วย AR ในอาคาร หรือห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ ที่ซับซ้อนได้ชัดเจนและแม่นยำมาก กล่าวได้ว่า ปัจจุบัน กราฟฟิตี้ เทคโนโลยี เป็นบริษัทรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia : SEA) ที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาให้ชาวโลกได้ใช้“ถ้าเทียบระบบระบุตำแหน่งของเรากับ GPS แล้ว แน่นอนว่า เราทำความแม่นยำได้มากกว่าถึง 5 เท่า โดยเฉพาะการนำทางภายในอาคารที่สัญญาณ GPS ไม่สามารถเข้าถึงได้ ระบบระบุตำแหน่งด้วยภาพของเราจึงตอบโจทย์มากกว่า … สำหรับทางเลือก การสร้างแผนที่ 3 มิติ นั้น ในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ แต่วิธีที่เราเลือกใช้และพัฒนาขึ้นมานั้นเป็นจุดขายของเราเลยก็ว่าได้ เพราะเราใช้เพียงแค่กล้องสมาร์ทโฟนในการแสกนพื้นที่ ซึ่งทำให้ต้นทุนต่อการสแกนถูกว่าวิธีการสแกนโดยใช้เซนเซอร์ความละเอียดสูง (LiDAR) ถึง 100 เท่า ทำให้การสแกนพื้นที่ห้าง หรือหอประชุมขนาดใหญ่เพิ่มทำระบบนำทางด้วย AR นั้น ‘ทำได้ง่าย’ และแทบไม่มีต้นทุนในการเริ่มต้นใช้งานระบบของเรา ซึ่งทำให้พาร์ทเนอร์หลายรายเลือกใช้โซลูชั่นของเราจากปัจจัยนี้” ถาวร กล่าว
จะว่าไป เทคโนโลยีนี้ สามารถต่อยอดได้หลากหลาย พิจารณาดูแล้ว ถ้ารัฐนำระบบนี้มาให้ประชาชนใช้ จะยิ่งเป็นประโยชน์มา เนื่องจากตอบโจทย์ได้หลายสิ่งอย่าง เช่น…
ดังนั้น การนำระบบแผนที่ 3 มิติและระบุตำแหน่งด้วย AI เข้ามาใช้ในสังคมมีความสามารถที่จะปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการใช้ชีวิตของคนในสังคมให้มีคุณภาพและสะดวกสบายมากขึ้น
Graffity เหมาะกับใครบ้าง?
แต่ในเบื้องต้น ผู้พัฒนาเทคโนโลยี ‘ถาวร’ ตั้งเป้าให้ ‘นักพัฒนาซอฟท์แวร์’ นำไปพัฒนาต่อยอด โดยชี้ เทคโนโลยี ‘ระบบ AI แผนที่ 3 มิติและระบุตำแหน่งด้วยภาพ’ ใช้งานได้ง่าย เป็นบริการ Software as a Service (SaaS) ที่นักพัฒนาและบริษัทพัฒนาโซลูชั่นด้านซอฟต์แวร์ สามารถใช้ซอฟต์แวร์นี้ ไปพัฒนาต่อยอดเป็นระบบนำทางด้วย AR หรือ Augmented Reality ภายในห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สนามบิน ระหว่างการนำทางด้วย AR ก็สามารถแสดง Virtual Information แทรกไปตามทางได้ด้วย เช่น แสดงโปรโมชั่นโฆษณาด้วย AR ได้อีก ทั้งนี้ ในส่วนของนักพัฒนาฯ ยังสามารถต่อยอดนำเทคโนโลยีแผนที่ 3 มิติ นี้ ไปสร้างเกม AR ในสเกลขนาดใหญ่ระดับเมืองได้ด้วย
“ปัจจุบันเราพบความท้าทายที่จะต้องสื่อสารเพื่อให้ตลาดได้เรียนรู้และเข้าใจในเทคโนโลยีของเรา ซึ่งทำให้เราต้องเข้าถึงคู่ค้าทั้ง 2 ฝั่งคือเจ้าของ property และบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ไปพร้อมๆ กัน…ขณะนี้เราก็เริ่มเห็นโอกาสในการขยายตลาดได้เร็วขึ้น จากการที่ฝั่งของนักพัฒนาเริ่มเห็นประโยชน์และเข้าใจการใช้เทคโนโลยีของเราในการพัฒนาต่อให้กับลูกค้าของเค้า ซึ่งทำให้เป้าหมายการเป็น SaaS ของเราเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ”
นี่แหละ…ความล้ำ ที่ทำให้ ‘สิงคโปร์’ ที่จัดว่า เป็นประเทศที่มีความล้ำหน้าของเทคโนโลยี และมีสตาร์ตอัพเจ๋งๆ มาก เป็นที่ 1 ของภูมิภาค SEA ก็สนใจ นำเทคโนโลยีไทยไปใช้!!! โดย ‘ถาวร’ บอกว่า ขณะนี้แม้ตัวเองจะเป็นแค่บริษัทเล็กๆ แต่มีพาร์ทเนอร์ในสิงคโปร์แล้ว และขณะนี้กำลัง ‘เริ่มทดลองใช้งาน’ ระบบ AI แผนที่ 3 มิติและระบุตำแหน่งด้วยภาพ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวสำคัญ เข้าใกล้เป้าหมายเป็นสตาร์ตอัพ ติดอันดับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้’
ช่องทางการติดต่อ
GraffityTechnologies: https://graffity.tech/ , https://www.facebook.com/GraffityTech/
บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)