Startup Thailand EN

NIA ดันสตาร์ตอัปไทยสาย Climate Tech สู่เวทีโลก เจาะตลาดตะวันออกกลาง ผ่าน Web Summit Qatar 2025

NIA ดันสตาร์ตอัปไทยสาย Climate Tech สู่เวทีโลก

เจาะตลาดตะวันออกกลางผ่าน Web Summit Qatar 2025

เมื่อเทคโนโลยีสีเขียวกลายเป็นวาระสาคัญของโลก สานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าผลักดันสตาร์ตอัปไทยให้ก้าวสู่เวทีสากลอย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุดได้นาสตาร์ตอัปด้าน Climate Tech และ GreenTech จากประเทศไทยจานวน 4 ราย เข้าร่วมงาน Web Summit Qatar 2025 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ หนึ่งในงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลกที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 25,000 คน จากนานาชาติ
.
นี่ไม่ใช่แค่โอกาสในการจัดแสดงนวัตกรรม แต่คือสนามจริงที่เปิดให้ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้ เผชิญหน้า และเชื่อมโยงกับตลาดใหม่ โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลางที่กาลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจแห่งความยั่งยืน
สตาร์ตอัปทั้ง 4 รายที่เข้าร่วม ต่างมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในกลุ่มของเทคโนโลยีสีเขียว ตั้งแต่การจัดการพลังงาน การผลิตพลังงานสะอาด การบริหารคาร์บอน ไปจนถึงการพัฒนาระบบอัตโนมัติอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

Altotech.AI ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงานด้วย AI และ IoT สัมผัสได้ถึงการตื่นตัวของตลาด MENA (Middle East and North Africa) ด้านพลังงานสะอาดตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าเข้าสู่งาน “เราพบกับนักลงทุนที่มองหาโซลูชันการจัดการพลังงานสาหรับเมืองใหม่ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เรากาลังพัฒนา” นายปเมฆิติ์ พุกทะเล Technical Product ของ Altotech.AI กล่าวพร้อมเสริมว่า ความเข้าใจในราคาตลาดและความคาดหวังของลูกค้าในภูมิภาคนี้ กลายเป็นข้อมูลล้าค่าที่ทีมจะนากลับไปปรับใช้ต่อ

ในอีกมุมหนึ่ง ION Energy ที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์สาหรับที่อยู่อาศัย ได้เรียนรู้ว่า “สิ่งที่เวิร์กในไทย อาจไม่เวิร์กในตะวันออกกลาง ถ้าเราไม่ปรับ mindset”
นายพีรกานต์ มานะกิจ ประธานฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทเล่าว่า ลูกค้าในภูมิภาคนี้ให้ความสาคัญกับความน่าเชื่อถือ และการรับประกันระยะยาว มากกว่าราคา ทาให้ทีมต้องเตรียมเอกสารและการบริการหลังการขายให้ชัดเจนกว่าที่เคย

VEKIN สตาร์ตอัปที่พัฒนา AI Carbon Editor สาหรับองค์กรและภาคอุตสาหกรรม สังเกตเห็นว่า ESG และ Green Finance กาลังกลายเป็นประเด็นร้อน แม้จะยังใหม่สาหรับหลายประเทศในภูมิภาค แต่เจ้าของธุรกิจกลับเปิดรับอย่างจริงจัง “ถ้าเราออกแบบ UX ให้ใช้งานง่ายขึ้น เขาก็พร้อมเปิดให้เราเริ่มโครงการนาร่องได้ทันที” ดร.เอกสิทธิ์ เผ่าพงษ์พันธ์ CTO ของ VEKIN เล่าอย่างมั่นใจ
ขณะที่ MUI Robotics มองเห็นพลังของการเล่าเรื่องผ่านปัญหา แทนที่จะเน้นเทคโนโลยี “อย่าขายว่าเรามีอะไร แต่ให้เริ่มจาก pain point ของลูกค้า” นายพัฒนณัฏฐ์ ว่องวัน CGO ของบริษัทเล่าว่า ทีมเปลี่ยนวิธีนาเสนอใหม่ให้จับต้องได้มากขึ้น โดยเริ่มจากปัญหาที่ลูกค้าเจอ แล้วค่อยเสนอเทคโนโลยีเป็นคาตอบ และผลลัพธ์ก็เห็นได้ทันทีจากความสนใจของผู้ร่วมงาน
แม้แต่ละทีมจะมาจากสายเทคโนโลยีที่ต่างกัน แต่บทสรุปจากสนามจริงที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ การไปงานระดับโลกไม่ใช่แค่ไปโชว์ของ “แต่คือการเปิดโลก ทดสอบสมมติฐาน เรียนรู้จากบริบทใหม่ และกลับมาปรับตัวให้ดีขึ้น” ทุกทีมต่างเน้นย้าถึงความสาคัญของการเข้าใจวัฒนธรรม พฤติกรรมของผู้ซื้อในแต่ละประเทศ การเตรียมความพร้อมทั้งทีมและเอกสารที่สื่อสารชัดเจน รวมถึงการปรับรูปแบบการนาเสนอให้เข้ากับความต้องการของตลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีแรงสนับสนุนจากภาครัฐที่เข้าใจและกล้าพาไปเผชิญโลกจริง
NIA ไม่ได้เพียงแค่สร้างเวที แต่ยังเป็นพลังผลักดันที่ช่วยให้สตาร์ตอัปไทยกล้าก้าวออกไปอย่างมั่นใจ เป้าหมายระยะยาวคือการผลักดันผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่าง Climate Tech, GreenTech, Health Tech และ Ag Tech และในโลกที่ความยั่งยืนไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กลายเป็นความจาเป็น NIA กาลังพิสูจน์ให้เห็นว่า สตาร์ตอัปไทยก็มีศักยภาพและโอกาสในเวทีระดับโลกได้เช่นกัน
Shopping Basket