Startup Thailand EN

Startup Thailand League 2025 

สานต่อไอเดีย…สู่ธุรกิจจริง

ผลักดันเมล็ดพันธุ์จากรั้วมหาวิทยาลัย

ก้าวสู่การเป็น Startup มืออาชีพ 

     จากนโยบายของภาครัฐที่ต้องการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นหรือ Startup ให้เป็นนักรบสายพันธุ์ใหม่ทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เมื่อปี 2559 ส่งผลให้เกิดโครงการ Startup Thailand League โดยได้มอบหมายให้กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นหรือ Startup เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษา พร้อมทั้งสร้างความตระหนักและการรับรู้จิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการ สู่กระบวนการบ่มเพาะและการพัฒนาผู้ประกอบการ ตลอดจนการเร่งรัดธุรกิจสู่ตลาดโลก

     โครงการ Startup Thailand League เวทีแห่งโอกาสที่เปิดให้กับนักศึกษาที่มีไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสร้างสรรค์ธุรกิจแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสังคมและส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้นหรือ Startup หันมาสร้างธุรกิจที่เป็นระบบ มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีช่วยขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็น Startup รุ่นใหม่ในภาคธุรกิจและเป็นกำลังสำคัญที่สามารถสนับสนุนการพัฒนายกระดับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสาขาต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมหลักของประเทศหรือเป็นพนักงานที่มีคุณภาพของบริษัทเอกชนต่อไป

     การเข้าร่วมโครงการ Startup Thailand League จะช่วยให้กลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้นหรือ Startup ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญที่มาเป็นกรรมการตัดสิน ทั้งแนวทางการเขียนแผนธุรกิจ การขยายธุรกิจ การบริหารองค์กร และมีโอกาสในการพบกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตัวจริง พร้อมทั้งมีโอกาสได้เข้าสู่โครงการบ่มเพาะธุรกิจทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และได้รับการสนับสนุนต่างๆ เช่น เงินทุน หรือกองทุนของภาครัฐและเอกชน ที่สำคัญได้เปิดตัวธุรกิจ Startup ให้นักลงทุนและสาธารณชนได้รับรู้อีกด้วย

     ตลอดระยะเวลา 9 ปีของการดำเนินโครงการ Startup Thailand League มีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 73,000 คน จาก 50 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศทั้งรัฐและเอกชนและสามารถต่อยอดจัดตั้งเป็นบริษัทมากกว่า 90 บริษัท ก่อให้เกิดรายได้รวมต่อปีมากกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการกระจายตัวของ Startup ไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เกิดการกระจายรายได้ออกสู่ภูมิภาค รวมถึงเกิดการจ้างงานและสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนได้มากขึ้นอีกด้วย

โครงการ Startup Thailand League จะพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการให้แก่นักศึกษาผ่านกิจกรรม 2 ขั้นตอน ได้แก่  

1) Business Model Coaching Camp การฝึกอบรมผ่านแคมป์ โดยวิทยากรที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ Startup เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างมาตรฐานในการเริ่มเป็นวิสาหกิจเริ่มต้นหรือ Startup เพื่อพัฒนาแนวคิด ไอเดีย แผนธุรกิจให้แก่นักศึกษา ก่อนเข้าสู่สนามของการนำเสนอผลงาน  

2) การประกวดแข่งขัน Regional Pitching Startup Thailand League ของนักศึกษาทั่วประเทศ โดยจัดขึ้นใน 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคกลางและภาคตะวันออก ทีมที่เข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายของ Startup Thailand League ระดับประเทศจะต้องแข่งขัน Pitching เพื่อเฟ้นหาอันดับ 1-3 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเองต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนักลงทุนและบริษัท Startup รุ่นพี่ ในวงการ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สนับสนุน Startup 

 

     โดยปีนี้มีทีมที่ผ่านคัดเลือกเข้าแข่งขันสุดยอดสตาร์ตอัประดับประเทศ ประจำปี 2568 จำนวน 14 ทีมจาก 250 ทีม จาก 4 ภูมิภาค ได้แก่ 

กลุ่มธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพ 

  •      POTENT มหาวิทยาลัยพะเยา – เม็ดฟู่ยาอดยาบ้า เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับช่วยบำบัดผู้ติดสารเสพติด หรือยาบ้า ด้วยคุณสมบัติเด่นในการปรับสมดุลโดปามีนในสมองของสมุนไพรไทย 3 ชนิด ได้แก่ เถาวัลย์เปรียง ใบกระท่อม และใบกัญชา ที่นำมาผ่านเทคโนโลยีการแช่เยือกแข็งเพื่อสกัดสารสำคัญออกมา แล้วพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบเม็ดฟู่ละลายน้ำ ที่ใช้งานต่อเนื่องเพียง 30 วัน ก็ช่วยให้ผู้ป่วยหยุดยาได้ โดยไม่ทิ้งผลข้างเคียงหลังภายหลัง ซึ่งสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ไปครองได้! 
  •      CareWalk มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต – เครื่องช่วยเดินอัตโนมัติด้วยระบบคอนโทรลเลอร์สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยฟื้นฟูหลังผ่าตัด มาพร้อมระบบเซฟตี้ 3 ระดับ ตั้งแต่มอเตอร์ควบคุมล้อที่ต้องกดปุ่มเพื่อใช้งาน เซนเซอร์ตรวจจับระยะห่างไม่ให้เกิน 50 ซม. และปุ่มฉุกเฉินเพื่อหยุดการทำงานของเครื่องทันทีเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน  
  •      OrganoTopia มหาวิทยาลัยมหิดล – เนื้อเยื่อตับจำลอง (Liver Organoid) ช่วยทดสอบความเป็นพิษของยา เพื่อลดความเสี่ยงในการผลิตยาออกมาจำหน่ายที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีทั้งรูปแบบหลอดแช่แข็งที่สามารถนำไปเลี้ยงต่อเองได้ และแบบเลี้ยงในเพลตพร้อมใช้งาน สามารถสร้างรายได้จากการขายเนื้อเยื้อตับจำลอง และบริการทดสอบความเป็นพิษต่อตับได้ด้วย  
  •      Thames and his sugar babies จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย – นวัตกรรมที่เปลี่ยนการ IV drip หรือการดริปวิตามินให้เป็นเรื่องง่าย ประหยัด ไม่เจ็บอีกต่อไป โดยใช้ Device ที่สามารถสูบผ่านปอดเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้โดยตรง จึงทำให้ทุกคนสามารถดริปวิตามินได้เองโดยไม่เข้าคลินิก โดยจะเริ่มจากโมเดลที่ตีตลาด Anti-Aging ก่อนจะขยับขยายไปยังกลุ่มอื่นๆ  
  •      MedTBac มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ – ชุดตรวจวัณโรคและวัณโรคเทียม แบบอิมมูโนโครมาโตกราฟิก ที่สามารถตรวจและแยกแยะการติดเชื้อทั้ง 2 ชนิดได้ในคราวเดียว ช่วยแก้ปัญหาการวินิจฉัยแบบเดิมที่ล่าช้าและไม่แม่นยำ แพทย์จึงสามารถวินิจฉัย และเริ่มต้นการรักษาได้อย่างรวดเร็ว และตรงจุดมากยิ่งขึ้น 

 

กลุ่มธุรกิจอาหารคนและสัตว์ 

  •      vet egg stearine innovation มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย – ผลิตภัณฑ์เสริมสีไข่แดงในอาหารสัตว์ ที่พัฒนาจาก “ไขสเตียรีน” วัตถุดิบเหลือทิ้งที่ได้จากกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มแดง นำมาผ่านกรรมวิธีผลิตให้เป็นผงเพื่อผสมในอาหารไก่ โดยไม่เพียงช่วยให้สีไข่แดงสดใสน่ารับประทาน แต่ยังมีคุณค่าทางสารอาหารด้วยโอเมก้า 3 วิตามินอี DHA และช่วยสร้างรายได้ให้กับภาคเกษตรควบคู่กัน 
  •      Dog Cookies มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา – Barkies Cookies Licorice ขนมสุนัขสูตรพิเศษช่วยลดกลิ่นอุจจาระ โดยมีส่วนผสมของชะเอมไทย ที่มีผลงานวิจัยรองรับว่าสามารถช่วยดูดซับแก๊สไอโดนเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นอุจจาระได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่ความเป็นออร์แกนิก ไม่ส่งผลเสียต่อตับและไตของสุนัข สามารถทานได้ทุกวัน เพื่อลดกลิ่นต่อเนื่อง 
  •      Powerpuff VET มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย – ผลิตภัณฑ์ป้องกันและดูแลกีบเท้าโคชนจากกะลาปาล์มน้ำมัน ลดการอักเสบ และป้องกันการติดเชื้อให้กับโคชน ทดแทนการใช้ฟอร์มาลีนที่ทำให้โคชนแสบผิว โดยยังมีการผสมสารสกัดเคราติน เพื่อช่วยในการบำรุง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลควบคู่ทั้งในเชิงป้องกันและรักษา อนาคตพร้อมสำหรับการต่อยอดไปสู่ตลาดสัตว์อื่นๆ ที่มีความต้องการในตลาด 
     

กลุ่มธุรกิจเพื่อความเพลิดเพลินและไลฟ์สไตล์ 

  •      SATI – บาล์มหอมจากหญ้าแฝกพันธุ์พระราชทาน ที่ช่วยบรรเทาภาวะสมาธิสั้น โดยอาศัยหลักการ Aromachology หรือศาสตร์แห่งกลิ่นที่มีผลต่ออารมณ์และจิตใจ โดยน้ำมันหอมระเหยจากหญ้าแฝกจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่ง GABA ที่สามารถลดความเครียด ปรับสมดุลสมองและอารมณ์ นอกจากนั้นกลุ่มคนทำงาน นักเรียนนักศึกษาก็ยังใช้นวัตกรรมนี้เพื่อการจดจ่อ มีสมาธิได้ด้วย 
  •      KIIPU มหาวิทยาลัยขอนแก่น – แพลตฟอร์มตู้คีบตุ๊กตาออนไลน์ เล่นง่ายผ่านมือถือ เป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนรักการคีบตุ๊กตา ที่มาพร้อมกับระบบแข่งคีบแบบถ่ายทอดสดกับเพื่อนๆ หรือการส่งสติ๊กเกอร์ให้กันและกัน มีจุดเด่นที่ความสะดวกสำหรับผู้เล่น และยังดึงดูดด้วยมาตรฐาน สินค้าลิขสิทธิ์แท้ ซึ่งในอนาคตยังสามารถต่อยอดไปยังตู้เกมอื่นๆ ที่พร้อมสร้างความสนุกทุกที่ทุกเวลา 
  •      หวานใจไทยสาโท มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี – ชุดหมักสาโทสำเร็จรูปที่ยกระดับ “เครื่องดื่มพื้นบ้านไทยอีสาน” ให้หมักง่ายขึ้น ด้วยนวัตกรรมเอนไซม์ที่ย่อยแป้งดิบได้โดยไม่ต้องผ่านความร้อน ช่วยลดขั้นตอนและประหยัดพลังงาน พร้อมส่งต่อเสน่ห์รสชาติแบบดั้งเดิมสู่คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมไทย 

 

กลุ่มธุรกิจเพื่อเศรษฐกิจ 

  •      SC2451 มหาวิทยาลัยทักษิณ – Cricktone เปปโตนจากจิ้งหรีด ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม การแพทย์ ฯลฯ โดยเปปโตนเป็นสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ แต่ในประเทศไทยทุกวันนี้ยังต้องนำเข้าเปปโตนทั้งหมด การผลิตได้เองในประเทศจึงช่วยลดต้นทุนให้กับหลายอุตสาหกรรม ซึ่งผลงานนี้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 
  •      RIFFAI-LRAS มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี – เทคโนโลยีติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกผ่านดาวเทียม ที่ผสานข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมเข้ากับการพยากรณ์อากาศ แล้วให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลผิวโลกอย่างแม่นยำแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะภาคพลังงาน ที่จำเป็นต้องวางแผนและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างทันท่วงที 
  • KLORA มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง – เม็ดฟู่ฟื้นฟูดอกไม้ นวัตกรรมที่ช่วยยืดอายุและรักษาความสดของดอกไม้ได้นาน 14 วัน ด้วยเทคโนโลยีนาโนซิงค์ออกไซด์ที่ช่วยลดการสะสมเชื้อจุลินทรีย์ พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยกระจายสารอาหารให้ดอกไม้ดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยี pH Control เพื่อควบคุมความเป็นกรดด่าง รักษาสีสันธรรมชาติของดอกไม้ ด้วยจุดเด่นทั้งหมดนี้ KLORA จึงเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไม้ดอกไม้ประดับไทย ให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสามารถชนะใจคณะกรรมการและคว้ารางวัลชนะเลิศในปีนี้ไปครองได้สำเร็จ! 

ผลการแข่งขันระดับประเทศของ Startup Thailand League 2025 มีทีมที่คว้ารางวัล ได้แก่

  •      ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีม KLORA มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รับโล่รางวัลและเงินรางวัล 50,000 บาท
  •      รองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม POTENT มหาวิทยาลัยพะเยา รับโล่รางวัลและเงินรางวัล 30,000 บาท
  •      รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม SC2451 (Cricktone) มหาวิทยาลัยทักษิณ รับโล่รางวัลและเงินรางวัล 20,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีรางวัล University of The Year สำหรับมหาวิทยาลัยที่ได้ร่วมผลักดันทีมนักศึกษาสู่ชัยชนะ ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 

     เวที Startup Thailand League 2025 ไม่ใช่แค่เวทีประกวดไอเดีย แต่นี่คือ “สนามฝึกจริง” ที่ช่วยหล่อหลอมให้นักศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัย ได้เริ่มต้นก้าวแรกไปสู่โลกธุรกิจ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งการตลาด การผลิต ไปจนถึงการวางโมเดลธุรกิจ และในปีหน้าเวทีนี้จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้โชว์ศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมใน Startup Thailand League 2026

Shopping Basket