Findice

FINDICE Education บอร์ดเกมการเงิน พาเกมส์ชีวิต ‘แกร่ง’

FINDICE Education บอร์ดเกมการเงิน พาเกม??ชีวิต ‘แกร่ง’

• สตาร์ทอัพไทย เก่ง คิดบอร์ดเกมเสริมทักษะการเงิน ปลูกฝังเยาวชน ตั้งแต่ 10 ขวบอัพ
• เผยแนวคิด เพราะต้องการร่วมแก้ปัญหา ‘คนไทยไร้เงินออม’
• ตอกย้ำจุดเด่น เป็นเกมการเงินที่เข้าถึงได้ง่าย เล่นได้ทั้งครอบครัว สนุกสนาน คลายเครียด มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ‘ระยะยาว’

อิทธิพลของ ‘เกม’ สามารถสร้างจินตนาการไกล เกม ไม่ใช่เรื่อง ‘แค่สนุก’ หากพ่อแม่ผู้ปกครอง ‘รู้จักเลือก’ เกม เป็นทักษะพื้นฐาน สามารถพัฒนาความคิดได้อย่างเป็นระบบ

รู้ไหมว่า ‘ทฤษฎีเกม’ เกิดขึ้น ระหว่างปี 1871-1956 โดยกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ เป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ … ผู้ริเริ่มก่อกำเนิด เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Émile Borel ซึ่งริเริ่มเปิดตัวทฤษฎีมาในช่วงปี 1871 แต่ยุคนั้นสมัยนั้น ‘ไม่มีใครเชื่อ’ … ต่อมาในปี 1926 John von Neumann (1903-1957) ได้เสนอทฤษฎี minimax ที่ใช้เป็นรากฐานของวิทยาการเรื่องทฤษฎีเกม … ณ จุดนั้น ก็ยัง ‘ไม่มีใครใส่ใจเหลียวแล’ อีก หลายคนยังคงคิดว่า “เกม เป็นเรื่องคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ ที่ใช้คิดเล่นสนุกๆ หาประโยชน์ใดๆ มิได้เลย” 

แต่ von Neumann ไม่ยอมแพ้…และได้ทำการเรียบเรียงตำราคลาสสิก ขึ้นในปี 1944 ชื่อว่า “Theory of Games and Economic Behavior” หรือ ทฤษฎีของเกมและพฤติกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเขียนร่วมกับ Oskar Morgenstern (1902–1977) และมหาวิทยาลัย Princeton แล้วนำออกตีพิมพ์เผยแพร่ วงการเศรษฐศาสตร์จึงเริ่มตื่นตัวในปีนี้นี่เอง พร้อมกับตระหนักในความสำคัญของตำรานี้ ถึงกับได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ The New York Times จากนั้นทฤษฎีเกมก็ได้รับการพัฒนาต่อ เพราะต้องอาศัยความรู้ด้านพีชคณิต เรขาคณิต ทฤษฎี set และ topology เข้ามาช่วยด้วย เพื่อนำมาใช้ในการแข่งขันเอาชนะกันในด้านธุรกิจ สงคราม การเมือง เศรษฐศาสตร์ รวมถึงชีววิทยาเชิงวิวัฒนาการ และใช้ในการวิเคราะห์สังคมความเป็นอยู่ของสัตว์และแบคทีเรีย ฯลฯ 

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ก็พอสรุปได้ว่า ‘เกม’ มีความสำคัญในหลากมิติ  โดยเฉพาะเมื่อต้องจำลองสังคมใดสังคมหนึ่ง บนโลกใบนี้ (เพื่อการทดลอง หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น) ที่มนุษย์อยากรู้ ซึ่งมันก็คือ เกมๆ หนึ่ง นั่นเอง…นี่แหละ ความยิ่งใหญ่ในซอกมุมเล็กๆ ที่หลายคนอาจรู้แล้ว และอีกหลายคน อาจ ยังไม่เคยรู้มาก่อน!!!

เกม กับการเสริมแกร่งทักษะชีวิต

ว่ามาดังนี้แล้ว ก็อยากกล่าวถึง ‘เกมในประเทศไทย’ โดยสตาร์ทอัพไทย กันบ้าง…ต้องบอกว่า สตาร์ทอัพไทย ก็เก่งไม่แพ้ใคร เพราะล่าสุด สตาร์ทอัพไทย ชื่อ Findice Education สร้างผลงานต่อยอดธุรกิจ บอร์ดเกมเสริมทักษะการเงินให้เยาวชน นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงก็ว่าได้ เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหา การไม่มีเงินออม ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการฝึกทักษะการเงินจากบอร์ดเกมตั้งแต่เยาว์วัย นั่นเอง

บอร์ดเกมนี้ พัฒนาโดย กาญจนา อ๊อดทรัพย์ นักวางแผนการเงิน (CFP) ที่มีประสบการณ์ในสายธนาคารมากว่า 10 ปี พ่วงตำแหน่งสำคัญ คือยังเป็น ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟินไดซ์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยการต่อยอด ‘ธุรกิจบอร์ดเกม’ เพื่อเสริมทักษะการเงิน (Financial Boardgame) ให้เยาวชนนี้ ก็ด้วยวัตถุประสงค์หลัก เพราะอยากช่วยปลูกฝังความรู้ด้านวางแผนการเงินให้กับเด็กๆ และคนไทย โดยจะย่อยเรื่องการเงินออกมาเป็นเกมต่างๆ เมนหลักคือการให้ความรู้เรื่องหนี้ การตัดสินใจซื้อ เงินสำรองฉุกเฉิน เป็นต้น นี่จึงเป็นการฝึกพัฒนาการทางความคิดตั้งแต่วัยเด็ก เน้นการเรียนรู้ผ่านเกมการเงินที่สุกแล้ว เป็นอีกก้าวที่ช่วยเสริมทักษะคณิตศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์ ได้อย่างสอดคล้อง เมื่อประกอบเข้ากับการเล่นอย่างมีความสุข ผู้เล่น จึงสามารถปรับประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ยาก โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 5 เกม ประกอบด้วย

1. เกมรู้หน้าไม่รู้หนี้ : Calculate Your Net Worth
2. เกมซื้อฉันเถอะ : Shop Me Please
3. เกมมีฉันไว้อุ่นใจนะ : Risky Lossy
4. เกมหุ้นซิ่ง วิ่งทะลุกระดาน : Trader Hunter
5. เกมแลกไปแลกมา : Trade In Trade Out

ทั้งนี้ เมื่อมีผลงานออกตลาด ก็ได้รับความสนใจมากๆ มีเสียงปรบมือรัวๆ จากพ่อแม่ผู้ปกครองมากมาย แทบ 100% บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเกมที่สนุก เล่นได้ทั้งครอบครัว มีข้อแม้นิดเดียวว่า เด็กๆ ที่เล่นจะต้องโตสักนิด เพราะอย่างในครอบครัวหนึ่ง ระบุว่า มีลูก 2 คน แต่ระหว่างที่พี่คนโต เล่นกับคุณพ่อคุณแม่อย่างสนุกสนานนั้น หันไปเจอน้อง ทำคิ้วชนกัน ใบหน้าไม่พอใจสุดเหวี่ยง เนื่องจากอยากสนุกด้วย แต่ก็ฟังเขาไม่รู้เรื่อง…ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเกมนี้ถูกระบุตั้งแต่ต้น ว่าเหมาะสมกับเด็กอายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเข้าใจได้ง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานการเงินมาก่อน ส่วนหนูน้อยรายนั้น อายุยังน้อยเกินกว่าจะเข้าใจ อดใจรอหนูโตกว่านี้อีกสักนิด ได้เข้าใจแน่นอน

ปัจจุบันมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน Findice สำหรับเล่นคู่กับบอร์ดเกม และยังเล่นพร้อมกันเป็นกลุ่ม ในอนาคตมีแผนขยายฐานลูกค้า B2B โดยเจาะกลุ่มไปที่สถาบันการศึกษาเป็นหลัก

ถือได้ว่า เป็นความฉลาดของสตาร์ทอัพ ที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะตอบโจทย์สังคม แก้ปัญหาการไม่มีเงินออมในคนไทย ปลูกฝังนิสัยการวางแผนการเงิน พร้อมพัฒนาต่อยอดได้ถึงการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี

Findice กับเป้าหมาย การเงินคนไทย ‘ลดเหลื่อมล้ำ’

ฟินไดซ์ ได้รับการสนับสนุนภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาทางด้านการเงิน โดยการพัฒนาเครื่องมือในการให้ความรู้ทางการเงิน ตั้งแต่เด็กวัยเรียน คือ คอร์สการเงินสำหรับเด็ก, การ์ดเกม และบอร์ดเกมการเงิน ที่มีความสนุก เข้าใจง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ในชีวิตประจำวัน ฟินไดซ์ มีเป้าหมายสูงสุด คือ ต้องการส่งเสริมให้คนไทยมีความรู้ทางการเงิน สร้างสังคมที่น่าอยู่ ปลอดภัย ลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างยั่งยืน

ปัจจุบันบริการของ Findice Education ไม่ได้มีเฉพาะบอร์ดเกมเสริมทักษะการเงินเท่านั้น แต่ยังมีคอร์สเสริมทักษะการเงินสำหรับเด็กอายุ 10-18 ปี และกิจกรรมเสริมทักษะการเงิน อีกด้วย

นี่แหละ ความเก่งของสตาร์ทอัพไทย ขอปรบมือรัว อีกครั้ง !!!

ทิ้งท้ายไว้ว่า Findice เป็นเกมที่ทุกบ้าน ควรมี !!! เพราะทุกคน (ตั้งแต่เด็ก 10 ขวบขึ้นไป) เข้าถึงง่าย เป็นกิจกรรมสนุก คลายเครียด มีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ‘ระยะยาว’

ช่องทางการติดต่อ 

Findice Education: https://www.findice.biz/

บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ภาพสินค้า

รู้ไหม? นวัตกรรม ‘รังไหม’ ช่วยวงการแพทย์ – อุตสาหกรรม ต่อยอด

รู้ไหม? นวัตกรรม ‘รังไหม’ ช่วยวงการแพทย์ – อุตสาหกรรม ต่อยอด

• Engine Life บริษัทสตาร์ทอัพไทย โชว์แรงหนุน NIA โครงการแผ่นแปะโปรตีนไหมไทย ควบคุมการปลดปล่อยสารสกัดจากกัญชงผ่านผิวหนัง
• ล่าสุด ยังจัดทำผลิตภัณฑ์ ‘SilkLife’ วัตถุดิบทางการแพทย์ เพื่อวงการแพทย์-อุตสาหกรรม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และสุขภาพ

เทคโนโลยี-นวัตกรรม นำมาซึ่งความก้าวหน้า ‘ผู้ทำ-เจ้าของนวัตกรรม’ ไม่ได้แค่ผลงานทางวิชาการ แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจ หลังผลงานนั้น ‘ใช้ได้จริง’ ลงจากหิ้งไปอยู่ห้างเรียบร้อย และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้คนได้อย่างกว้างขวาง

วันนี้ขอกล่าวถึง นวัตกรรม ‘ไหมไทย’ … ที่นับวัน ยิ่งเห็นการต่อยอด โดยเฉพาะเมื่อสกัดออกมาเป็นโปรตีนชนิดที่เรียกว่า ‘ไฟโบรอิน’ (Fibroin) โดยปี 2566 เราได้เห็นผลิตภัณฑ์ ‘นวัตกรรมแผ่นแปะ Keep On Sleep’ สารสกัดจากกัญชง (CBD) ช่วยให้นอนหลับอย่างมีคุณภาพและหลับลึกตลอดคืน พัฒนาโดย Engine Life บริษัทสตาร์ทอัพของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรมหาวิทยาลัย ภายใต้การบ่มเพาะของ CU Innovation Hub จากทีมวิจัยนำโดย รศ.ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

สำหรับ Keep On Sleep เป็นแผ่นแปะชนิด Transdermal Delivery เป็นการนำนวัตกรรม ‘โปรตีนไฟโบรอิน’ มาห่อหุ้มสาร CBD เป็น CBD Nano capsules ทำให้ในผลิตภัณฑ์ Keep On Sleep สามารถผลักสาร CBD เข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปริมาณที่สม่ำเสมอตลอดคืนที่แปะแผ่นชนิดนี้ เนื่องจากสาร CBD มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย การแปะแผ่น Keep On Sleep จึงช่วยให้ผู้ใช้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น และช่วยให้หลับลึกตลอดคืน

นี่เป็นเพียงแค่ 1 ผลิตภัณฑ์ แต่ รู้หรือไม่? ‘โปรตีนไฟโบรอิน’ ยังต่อยอดผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย!!! จากคุณสมบัติที่มี ทั้ง…

  1. ความเข้ากันได้ทางชีวภาพ (Biocompatibility)  ไฟโบรอินมีความเข้ากันได้ทางชีวภาพสูง ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน เมื่อถูกนำเข้าไปในร่างกายมนุษย์
  2. ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น (Strength and Flexibility) ไฟโบรอินมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทางกายภาพ
  3. การสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Biodegradability)  ไฟโบรอินสามารถสลายตัวได้ในร่างกายมนุษย์ โดยไม่ก่อให้เกิดสารพิษ ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการปลูกถ่ายและการใช้งานทางการแพทย์

คุณสมบัติทั้งหมดนี้ ก็เป็นที่มาให้ทางการแพทย์นำไปประยุกต์ใช้ ทั้งในการรักษาบาดแผล, การสร้างเนื้อเยื่อ, การปลูกถ่ายอวัยวะเทียม และระบบการนำส่งยา ซึ่งไฟโบรอินสามารถใช้ในการสร้างระบบนำส่งยาที่ควบคุมการปล่อยยาในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ดังเช่นที่กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Keep On Sleep ช่วยหลับอย่างมีคุณภาพตลอดทั้งคืนนั่นเอง

ข้อดีของ ‘ไฟโบรอิน’

ไฟโบรอิน – ไม่เป็นพิษ ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในร่างกายมนุษย์
ไฟโบรอิน – ความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถปรับปรุงและดัดแปลงคุณสมบัติเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
ไฟโบรอิน – มีประสิทธิภาพในการสมานแผล ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์และการสมานแผลอย่างรวดเร็ว
ไฟโบรอิน – เป็นวัสดุที่มีศักยภาพสูง ในด้านการแพทย์และวิศวกรรมชีวภาพ เนื่องจากคุณสมบัติทางชีวภาพที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการปรับปรุงเพื่อใช้ในงานที่หลากหลาย

จาก ‘ไฟโบรอินไหม’ สู่ผลิตภัณฑ์ Silklife

การเปลี่ยนจากโปรตีนไฟโบรอินสู่ผลิตภัณฑ์ SilkLife เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวการแพทย์ รวมถึงการทดสอบและการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ข้อนี้ รศ. ดร.จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท เจ้าของงานวิจัยจากการสกัดโปรตีนของไหมไทย เผย นักวิจัยและวิศวกรชีวการแพทย์ ทำการวิจัยและทดลองเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ไฟโบรอินเป็นส่วนประกอบหลัก โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการใช้งานในทางการแพทย์ มีการทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มงวด เพื่อยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งานทางการแพทย์อย่างครบถ้วน จนขณะนี้ผลิตภัณฑ์ SilkLife จัดเป็นวัตถุดิบทางการแพทย์ที่สามารถนำไปใช้ผลิตยา หรือวัคซีนได้ โดยเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตชีววัสดุเกรดการแพทย์ ที่ประยุกต์ใช้เป็นระบบนำส่งยาและสารออกฤทธิ์ เพื่อเป็นวิธีการรักษาโรครูปแบบใหม่ เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ยังไม่มีมาก่อน เป็นโอกาสการเติบโตในหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

Silklife ทำอะไรได้บ้าง?

ว่าแล้วก็พาไปตัวตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ Silklife ได้แก่
วัสดุปิดแผล (Wound Dressings) ใช้ไฟโบรอินในการผลิตวัสดุปิดแผลที่มีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสมานแผลและลดการติดเชื้อ
การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ (Tissue Scaffolds) ใช้ไฟโบรอินในการสร้างโครงร่างที่ช่วยให้เซลล์เนื้อเยื่อสามารถเจริญเติบโตและฟื้นฟูได้
ระบบนำส่งยา (Drug Delivery Systems) ใช้ไฟโบรอินในการผลิตไมโครและนาโนพาร์ติเคิลที่สามารถควบคุมการปล่อยยาในร่างกาย

Silklife โดดเด่นอย่างไร

หากจะบอกกล่าวผู้เกี่ยวข้อง ที่ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล บริษัทยา หรือผู้ผลิตอาหารเสริม และหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็อยากบอกว่า SilkLife มีประโยชน์หลากหลายมาก
SilkLife ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรค ลดความถี่ในการใช้ยา และปริมาณโดสยา ซึ่งจะช่วยลดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ของการใช้ยา ทำให้ผู้ป่วยสะดวก และได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณลักษณะเด่นของผลงานนวัตกรรม
SilkLife จัดเป็นชีววัสดุจากธรรมชาติที่ได้จากกระบวนการที่ผ่านมาตรฐานตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
SilkLife สามารถนำมาปรับสูตร ขึ้นรูปเป็นรูปแบบต่างๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไฮโดรเจลชนิดฉีดได้ แผ่นแปะนำส่งสารผ่านผิวหนัง อนุภาคไมโคร/นาโน โครงเนื้อเยื่อสามมิติ และสามารถนำไปผสมเพื่อนำส่งยาได้หลากหลายชนิด ทั้งยาที่ละลายน้ำ ยาไม่ละลายน้ำ สารสกัดสมุนไพร โดย SilkLife มี database ของสูตรการผสมกับยา ที่ช่วยให้พัฒนาสูตรร่วมกับยาต่างๆได้ง่ายและตรงความต้องการของลูกค้า
SilkLife นับเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติการใช้ไหมไทยในอุตสาหกรรมสิ่งทอ สู่การเป็นชีววัสดุทางการแพทย์ ที่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ

รู้ดังนี้แล้ว ไม่ต้องรอช้า เพราะในท่ามกลางที่ภาคธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ต่างชิงไหวชิงพริบ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือปรับแต่งของเดิมที่มีอยู่ ก็สามารถนำผลิตภัณฑ์ SilkLife ไปเสริมพลังต่อยอดกันได้ โดย SilkLife จัดเป็นตัวอย่างที่ดีของศักยภาพของวัสดุชีวภาพธรรมชาติในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการแพทย์ ด้วยการใช้คุณสมบัติพิเศษของโปรตีนไฟโบรอิน นอกจากนี้ SilkLife ยังจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์โซลูชั่นปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ทั้งในด้านการรักษาบาดแผล วิศวกรรมเนื้อเยื่อ และระบบนำส่งยา ซึ่งไม่เพียงตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดการแพทย์เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการปฏิบัติที่ยั่งยืนและการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกหลากมิติด้วย

ช่องทางการติดต่อ Enginelife: https://www.enginelife.co.th
บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

cover

Carsub แพลตฟอร์มตัวช่วย ‘ค้นหาอู่ซ่อมรถ’ สุดง่าย

Carsub แพลตฟอร์มตัวช่วย ‘ค้นหาอู่ซ่อมรถ’ สุดง่าย

• Carsub จะฉุกเฉิน หรือแค่ซ่อม ก็เป็นเลขาสุดน่ารัก
• ช่วยจัดการทุกปัญหาให้รถยนต์คันโปรด
• ทำความรู้จักการทำงาน ที่ช่วยสร้างความอุ่นใจให้รถคุณ

โลกของการเดินทาง ไม่ได้ Flow ไปทุกที่ เมื่อไหร่ที่คุณเดินทางแล้ว ‘รถยนต์…มีปัญหา’แน่นอน ความว้าวุ่นใจ-สติแตก เกิดขึ้นได้ จะมองหาคนช่วยเหลือก็ไม่ง่ายเสมอไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ คุณรู้จัก Carsub (คาร์ซัพ) คุณจะรู้ว่า คุณมีเลขาคนสำคัญเคียงข้างรถยนต์คันโปรดบอกคุณได้ว่า ปัญหานั้นๆ แก้ได้ที่ไหน-อย่างไร?

แน่นอน สิ่งที่กำลังพูดถึงนี้ คือ แอปพลิเคชัน ชื่อ Carsub ทำหน้าที่เป็นเลขา ซัพพอร์ตให้เจ้าของรถยนต์ ได้เจอกับอู่ซ่อมรถที่ตรงตามความต้องการของคุณจริงๆ โดยที่การทำงานของแอปฯ จะทำหน้าที่เป็น‘ศูนย์รวบรวมอู่ซ่อมรถและให้คำปรึกษาเรื่องรถ’ โดยเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยใหเ้จ้าของรถยนต์ทุกท่านสามารถค้นหา และจองบริการ กับอู่ซ่อมรถที่ตรงกับความต้องการจริงๆ  

ทำไม Carsub จึงเป็นเลขารู้ใจ

เพราะ Carsub สร้าง Intelligence Search Tools ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถกรอง และค้นหาอู่ที่ตรงกับปัจจัยความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านราคา, สถานที่, ความเชี่ยวชาญ, ความน่าเชื่อถือ และอีกหลากเรื่องของรถ เท่าที่ลูกค้าจะกรอกข้อความปัญหาเข้าไปได้ แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับถึงการติดตามสถานะการซ่อม และการจ่ายเงินผ่านแพลตฟอร์มได้อีกด้วย โดยในทุกๆการซ่อมข้อมูลและรายละเอียดการซ่อมต่างๆ จะถูกเก็บข้อมูลและทําออกมาเป็นรูปแบบ E-Bill ซึ่งลูกค้าสามารถเรียกย้อนดูภายหลัง ในแพลตฟอร์มนี้ได้ ถือเป็น 1 ในสุดยอดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาเรื่องรถ เป็นอย่างดี เล่ามาดังนี้แล้ว คงอยากรู้จักว่า เจ้าของผู้สร้างนวัตกรรมนี้ เป็นใคร

ถอดรหัส Carsub คือใคร

แพลตฟอร์ม Carsub แอปพลิเคชัน ช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแล รถยนต์แบบครบวงจร นี้ เกิดขึ้นจากการร่วมคิดร่วมสร้างของนิสิต สถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาฯ (BAScii) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ หลักสูตรนานาชาติ (ISE) ตั้งทีม Carsub เพื่อร่วมแข่งขัน STARTUP THAILAND LEAGUE 2022 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว งานนี้จัดโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ที่ขณะนั้น ทำการเฟ้นหาสุดยอดสตาร์ทอัพระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย และทีม Carsub คือ ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน STARTUP THAILAND LEAGUE 2022 ในระดับภาคกลางและตะวันออก ซึ่งนำเสนอแผนงานธุรกิจ และไอเดียนวัตกรรมพัฒนาธุรกิจแบบใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสังคมได้เป็นอย่างดี เป็นสุดยอด STARTUP ระดับภาค ณ ขณะนั้น ก่อนที่ในวันนี้ จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเลขา ช่วยค้นหาอู่ซ่อม เป็นเพื่อนคู่คิดเรื่องรถให้ทุกคน

 

ชุณหกาญ เสมาทัต CEO & Co founder คาร์ซัพ เผยแรงบันดาลใจในการสร้างแพลตฟอร์มซึ่งเป็นศูนย์รวมอู่ซ่อมรถว่า เกิดจาก 2 เหตุผล คือ 1. ที่บ้านทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์มือสองมานานกว่า 20 ปี ทำให้มี network ที่ดีและมีคุณภาพคอยช่วยเหลือ และ 2. ก่อนหน้านี้ ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์มือสองมานานกว่า 4 ปีแล้ว ทำให้สามารถเข้าถึงเเหล่งของดีราคาไม่แพงได้ ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งในวงการก็ว่าได้

ขณะที่วงการรถยนต์ในประเทศปัจจุบัน แม้จะมีก้าวใหม่ พาประเทศสู่อุตสาหกรรมยานยนต์-อากาศยานรักษ์โลก ปรับตัวสู่เส้นทาง Net Zero ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น แต่จำนวนรถยนต์มือสองก็ยังมีมากขึ้นทุกขณะ ตรงกับเป้าหมายธุรกิจ ที่พุ่งเป้าสู่เจ้าของรถยนต์ที่ครอบครองรถยนต์อายุเกิน 5 ปี ที่ส่วนใหญ่ประมาณเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีโอกาสเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถมากที่สุด ซึ่งสำหรับคาร์ซัพ เลือกที่จะให้มาตรฐานที่ดี ตรงตามความต้องการ เรียกความเชื่อมั่นเชื่อถือระยะยาว

“ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสจับมือกับ บริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์มือสอง รวมไปถึง ชมรมรถยนต์มือสองต่างๆ ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นบุคคลที่มีโอกาสใช้บริการอู่ซ่อมรถเป็นจำนวนมาก และต่อจากนี้เรามีแผนที่จะจับมือกับบริษัทเหล่านี้มากขึ้น รวมไปถึง สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วแห่งประเทศไทย รวมไปถึงตลาด EV ที่กำลังเติบโต ที่เรายังมองเห็นถึงตลาดที่เราสามารถเข้าไปดึงส่วนแบ่งได้” ชุณหกาญ เสมาทัต CEO & Co founder คาร์ซัพ กล่าว

ผลสัมฤทธิ์-นวัตกรรมใช้ได้จริง

Carsub รู้ดีว่า ปัจจุบันการค้นหาอู่ซ่อมรถเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจ ไว้วางใจได้ยาก ปัญหาส่วนใหญ่คือ ซ่อมไปแล้ว แต่ยังมีปัญหาอื่นตามมาให้ต้องกลับไปซ่อมอีกทำให้เสียเวลา ดังนั้น เมื่ออู่ที่ดีมีมาตรฐานมารวมอยู่ในแพลตฟอร์มคาร์ซัพ ก็ไม่มีเหตุผลที่คนอยากได้มาตรฐานที่ดี จะไม่เข้ามาใช้บริการ เพราะไม่ว่ารถของคุณจะเกิดปัญหาในยามฉุกเฉิน หรือไม่ได้ฉุกเฉิน คาร์ซัพก็ช่วยคุณจัดการทุกปัญหารถได้โดยง่าย จัดเป็นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง ตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการ ช่วยให้เจ้าของรถได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมและดีที่สุด สำหรับการซ่อม-บำรุงรักษารถแต่ละครั้งได้อย่างยอดเยี่ยม

เชื่อว่า Carsub สุดยอดนวัตกรรมด้าน ‘อู่ซ่อม’ จะเป็นที่นิยมของคนไทยมากขึ้น ด้วยเพราะมาตรฐานและความชัดเจน ในหลายประเด็น โดยนอกเหนือจาก ตำแหน่งที่ตั้งอู่รถที่ให้บริการแล้ว ด้านค่าใช้จ่าย และ service อื่นที่คุยได้ ก็เป็นสิ่งที่เจ้าของรถ หรือผู้บริโภค ต้องการทราบก่อนนำรถเข้าซ่อมด้วยเช่นกันสำหรับผู้ยังไม่เคยใช้บริการ ทำความรู้จักกับ Carsub ง่ายๆ ด้วยการโหลดแอปพลิเคชันมาไว้ในโทรศัพท์มือถือ

Carsub มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ มากมายที่จะทำ ให้การค้นหาอู่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพื่อให้ทุกท่านได้ เจอกับอู่ที่ตรงกับความต้องการให้ได้มากที่สุด

ช่องทางการติดต่อ CARSUB: https://www.carsup.co/

บทความนี้อยู่ภายใต้โครงการ Startup Thailand Connext สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)