b1

Government Support เมื่อภาครัฐจับมือกันปั้น Startup ไทยสู่ระดับโลก

Government Support

เมื่อภาครัฐจับมือกันปั้น Startup ไทยสู่ระดับโลก

     ในยุคที่ Startup ไทยต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว การมี “พาร์ตเนอร์ภาครัฐ” ที่ช่วยสนับสนุนในทุกมิติ จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน “Government Support” ซึ่งจัดโดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA คือเวทีที่รวบรวมหน่วยงานภาครัฐที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศ Startup ไทย ที่มาพร้อมเครื่องมือและกลไกสนับสนุนครบทุกด้าน เพื่อให้ Startup เข้าใจบทบาทของภาครัฐ และสามารถต่อยอดธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
NIA ได้ออกแบบกลไกการสนับสนุน Startup อย่างเป็นระบบภายใต้แนวคิด “Groom – Grant – Growth – Global” เริ่มจากการบ่มเพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ผ่านโครงการ Startup Thailand League ซึ่งเป็นการแข่งขันไอเดียและสร้างต้นแบบนวัตกรรมในกลุ่มนักศึกษาทั่วประเทศ เพื่อวางรากฐานของผู้ประกอบการในอนาคตอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในด้านการสนับสนุนทุน มีโครงการ Regional Open Innovation ซึ่งให้ทุนสนับสนุนพื้นที่นวัตกรรมระดับภูมิภาคสูงสุด 1.5 ล้านบาท และ Thematic Innovation ที่สนับสนุน Startup ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น FoodTech, AgriTech, Circular Economy, Clean Energy, EV, AI และ Medical สูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อโครงการ
     นอกจากนี้ NIA ยังมุ่งพัฒนาและเร่งศักยภาพของ Startup ในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ได้แก่ FoodTech, ClimateTech, AgriTech, HealthTech และ TravelTech ผ่านโครงการ Accelerator พร้อมเปิดโอกาสให้ Startup ที่มีความพร้อมขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมุ่งเป้าไปยัง ASEAN+, สหภาพยุโรป (EU) และกลุ่มประเทศ GCC (Qatar, Saudi,UEA) ผ่านกิจกรรม Business Matching การเชื่อมโยงพันธมิตร และการผลักดันการลงทุนระดับนานาชาติ

     ด้าน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Startup ไทยในกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัลให้เติบโตอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ผ่านโครงการ depa GrowthLab และ depa Global Launchpad ที่บ่มเพาะและเร่งการเติบโตของ Startup ในสาขา FinTech, EdTech, AgriTech, TravelTech, HealthTech และ IndustryTech พร้อมมอบทุนสนับสนุนทั้งแบบให้เปล่า (Grant) และทุนแปลงสภาพเป็นหุ้น (Convertible) ตั้งแต่ 200,000 บาท ไปจนถึง 5 ล้านบาท รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น การยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น (Capital Gains Tax) และการหักลดหย่อนภาษี 200% สำหรับการจัดซื้อเทคโนโลยีที่ขึ้นทะเบียนใน Thai Digital Catalog

     ในขณะเดียวกัน TED Fund หรือกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี ผ่านการสนับสนุนตั้งแต่การพิสูจน์แนวคิด การพัฒนาแผนธุรกิจ การสร้างต้นแบบ ไปจนถึงการขยายธุรกิจจริง โดยมีทุนให้เลือกถึง 4 ประเภท ได้แก่ 1) ทุนพิสูจน์แนวคิด (IDEA) ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของ TED Fellow ซึ่งเป็นหน่วยบ่มเพาะที่ได้รับการรับรอง 2) ทุนพัฒนาแผนธุรกิจและต้นแบบ (POC) 3) ทุนสร้าง Startup Promoter และ 4) ทุนสำหรับขยายธุรกิจสู่ตลาดจริงสูงสุด 2 ล้านบาทต่อโครงการ ภายใต้ระยะเวลาดำเนินโครงการไม่เกิน 24 เดือน ซึ่งผู้สมัครสามารถเป็นนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ หรือบริษัทนิติบุคคล

     สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ก็มีบทบาทเด่นในการผลักดัน High-Potential Startups ภายใต้พระราชบัญญัติการเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยสนับสนุนรูปแบบ Matching Fund วงเงิน 20–50 ล้านบาท ซึ่ง BOI จับคู่ลงทุนกับเงินทุนจาก VC หรือ CVC ที่ Startup ได้รับ พร้อมสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น วีซ่า ใบอนุญาตทำงาน การถือครองที่ดิน และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดถึง 15 ปี โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ ผู้ก่อตั้งต้องถือหุ้นในบริษัทไม่ต่ำกว่า 60% และได้รับเงินลงทุนจาก VC หรือ CVC ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท รวมถึงต้องดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ดิจิทัล เกษตรเทคโนโลยี และการแพทย์

     สุดท้าย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้พัฒนา LiVE Exchange และ LiVE Platform เพื่อเป็นเวทีระดมทุนและบ่มเพาะธุรกิจสำหรับ SMEs และ Startup ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มี VC หรือ PE ร่วมลงทุน สามารถเข้าระดมทุนมูลค่า 10–500 ล้านบาท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมีข้อกำหนดด้านธรรมาภิบาลและมาตรฐานการเงินที่ผ่อนปรน เหมาะสมกับการเติบโตในระยะเริ่มต้นถึงระยะขยาย ทั้งนี้ ยังมีการให้บริการเอกสารมาตรฐานทางธุรกิจ เช่น สัญญาหุ้น, NDA, Term Sheet และ Privacy Policy เพื่อช่วยให้ Startup จัดการภายในอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีระบบสนับสนุนครบวงจรบน LiVE Platform ได้แก่ 1) Education Platform 2) Scaling Up Platform 3) Business Matching & Networking รวมถึงบริการเอกสารทางธุรกิจมาตรฐาน เช่น NDA, Term Sheet, MOU และนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล
วันนี้ Startup ไทยไม่ได้เดินลำพังอีกต่อไป เมื่อทุกหน่วยงานภาครัฐต่างจับมือกันปูทางสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมผลักดันธุรกิจไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างเต็มศักยภาพ

ติดตามบทความดี ๆ และข่าวสารล่าสุดจาก Startup Thailand 2025
ได้ทุกช่องทาง: Facebook | Website | LinkedIn | X (Twitter)
เพื่อไม่พลาดทุกโอกาสและความเคลื่อนไหวสำคัญสำหรับ Startup

COVER Web Summit

NIA ดันสตาร์ตอัปไทยสาย Climate Tech สู่เวทีโลก เจาะตลาดตะวันออกกลางผ่าน Web Summit Qatar 2025

NIA ดันสตาร์ตอัปไทยสาย Climate Tech สู่เวทีโลก

เจาะตลาดตะวันออกกลาง

ผ่าน Web Summit Qatar 2025

     เมื่อเทคโนโลยีสีเขียวกลายเป็นวาระสาคัญของโลก สานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าผลักดันสตาร์ตอัปไทยให้ก้าวสู่เวทีสากลอย่างเป็นรูปธรรม โดยล่าสุดได้นาสตาร์ตอัปด้าน Climate Tech และ GreenTech จากประเทศไทยจานวน 4 ราย เข้าร่วมงาน Web Summit Qatar 2025 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ หนึ่งในงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลกที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 25,000 คน จากนานาชาติ
.
     นี่ไม่ใช่แค่โอกาสในการจัดแสดงนวัตกรรม แต่คือสนามจริงที่เปิดให้ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้ เผชิญหน้า และเชื่อมโยงกับตลาดใหม่ โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลางที่กาลังเร่งเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจแห่งความยั่งยืน
สตาร์ตอัปทั้ง 4 รายที่เข้าร่วม ต่างมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในกลุ่มของเทคโนโลยีสีเขียว ตั้งแต่การจัดการพลังงาน การผลิตพลังงานสะอาด การบริหารคาร์บอน ไปจนถึงการพัฒนาระบบอัตโนมัติอัจฉริยะที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

     Altotech.AI ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงานด้วย AI และ IoT สัมผัสได้ถึงการตื่นตัวของตลาด MENA (Middle East and North Africa) ด้านพลังงานสะอาดตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเท้าเข้าสู่งาน “เราพบกับนักลงทุนที่มองหาโซลูชันการจัดการพลังงานสาหรับเมืองใหม่ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เรากาลังพัฒนา” นายปเมฆิติ์ พุกทะเล Technical Product ของ Altotech.AI กล่าวพร้อมเสริมว่า ความเข้าใจในราคาตลาดและความคาดหวังของลูกค้าในภูมิภาคนี้ กลายเป็นข้อมูลล้าค่าที่ทีมจะนากลับไปปรับใช้ต่อ

     ในอีกมุมหนึ่ง ION Energy ที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์สาหรับที่อยู่อาศัย ได้เรียนรู้ว่า “สิ่งที่เวิร์กในไทย อาจไม่เวิร์กในตะวันออกกลาง ถ้าเราไม่ปรับ mindset” นายพีรกานต์ มานะกิจ ประธานฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทเล่าว่า ลูกค้าในภูมิภาคนี้ให้ความสาคัญกับความน่าเชื่อถือ และการรับประกันระยะยาว มากกว่าราคา ทาให้ทีมต้องเตรียมเอกสารและการบริการหลังการขายให้ชัดเจนกว่าที่เคย

     VEKIN สตาร์ตอัปที่พัฒนา AI Carbon Editor สาหรับองค์กรและภาคอุตสาหกรรม สังเกตเห็นว่า ESG และ Green Finance กาลังกลายเป็นประเด็นร้อน แม้จะยังใหม่สาหรับหลายประเทศในภูมิภาค แต่เจ้าของธุรกิจกลับเปิดรับอย่างจริงจัง “ถ้าเราออกแบบ UX ให้ใช้งานง่ายขึ้น เขาก็พร้อมเปิดให้เราเริ่มโครงการนาร่องได้ทันที” ดร.เอกสิทธิ์ เผ่าพงษ์พันธ์ CTO ของ VEKIN เล่าอย่างมั่นใจ

     ขณะที่ MUI Robotics มองเห็นพลังของการเล่าเรื่องผ่านปัญหา แทนที่จะเน้นเทคโนโลยี “อย่าขายว่าเรามีอะไร แต่ให้เริ่มจาก pain point ของลูกค้า” นายพัฒนณัฏฐ์ ว่องวัน CGO ของบริษัทเล่าว่า ทีมเปลี่ยนวิธีนาเสนอใหม่ให้จับต้องได้มากขึ้น โดยเริ่มจากปัญหาที่ลูกค้าเจอ แล้วค่อยเสนอเทคโนโลยีเป็นคาตอบ และผลลัพธ์ก็เห็นได้ทันทีจากความสนใจของผู้ร่วมงาน

     แม้แต่ละทีมจะมาจากสายเทคโนโลยีที่ต่างกัน แต่บทสรุปจากสนามจริงที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ การไปงานระดับโลกไม่ใช่แค่ไปโชว์ของ “แต่คือการเปิดโลก ทดสอบสมมติฐาน เรียนรู้จากบริบทใหม่ และกลับมาปรับตัวให้ดีขึ้น” ทุกทีมต่างเน้นย้าถึงความสาคัญของการเข้าใจวัฒนธรรม พฤติกรรมของผู้ซื้อในแต่ละประเทศ การเตรียมความพร้อมทั้งทีมและเอกสารที่สื่อสารชัดเจน รวมถึงการปรับรูปแบบการนาเสนอให้เข้ากับความต้องการของตลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีแรงสนับสนุนจากภาครัฐที่เข้าใจและกล้าพาไปเผชิญโลกจริง

NIA ไม่ได้เพียงแค่สร้างเวที แต่ยังเป็นพลังผลักดันที่ช่วยให้สตาร์ตอัปไทยกล้าก้าวออกไปอย่างมั่นใจ เป้าหมายระยะยาวคือการผลักดันผู้ประกอบการนวัตกรรมไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอย่าง Climate Tech, GreenTech, Health Tech และ Ag Tech และในโลกที่ความยั่งยืนไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กลายเป็นความจาเป็น NIA กาลังพิสูจน์ให้เห็นว่า สตาร์ตอัปไทยก็มีศักยภาพและโอกาสในเวทีระดับโลกได้เช่นกัน
Startup-Journey-Priceza-353x199-1

Startup Journey : Priceza

Startup Journey : Priceza

สมัยนี้จะชอปแต่ละที ไม่ต้องเสียเวลามาเดินเลือกในร้านต่าง ๆ ให้เสียเวลาแล้วว่าอันไหนถูกกว่า อันไหนคุ้มกว่า นักชอปไทยแลนด์ 4.0 แค่คลิกเดียวก็สามารถเปรียบเทียบราคาสินค้าได้แล้ว เพราะนวัตกรรมดี ๆ จากสตาร์ทอัพสัญชาติไทยอย่าง Priceza เครื่องมือค้นหาและ เปรียบเทียบราคาสินค้าอันดับ 1 ในประเทศไทย และตอนนี้ขยายธุรกิจครอบคลุม 6 ประเทศทั่วอาเซียน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนามแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของคนสายวิศวกร จะกลายมาเป็น Startup รายใหญ่ที่ช่วยแก้ ปัญหาระดับโลก ซึ่งจุดเริ่มต้นนี้ต้องย้อนไปกว่า 10 ปีที่คุณไว ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา CEO และ Co-founder ของ Priceza มีงานอดิเรกคือ เดินดูสินค้าในห้าง IT จนกลายเป็นกูรูด้านราคาสินค้า IT ไปโดยปริยาย ไม่ว่าใครที่ต้องการคอมพิวเตอร์ใหม่ก็จะเลือกมาถามคุณไว เริ่ม รู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาส่วนตัวที่ต้องรวบรวมราคาจากร้านค้าจำนวนมาก บวกกับแนวโน้มตลาดออนไลน์ที่คิดว่าจะต้องเติบโต จึงชักชวน เพื่อนอีก 2 ท่านให้มาเริ่มทำแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาสินค้า ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน เลิกรา แล้วเริ่มใหม่ จนกระทั่งวันนี้เป็นแพ ลตฟอร์มที่รวมสินค้ามากที่สุดในไทย กว่า 100 ล้านรายการ และกล้ายืดอกภูมิใจว่าเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่นวัตกรรมสามารถเลี้ยงดูบริษัท ได้เองโดยไม่ต้องง้อเงินทุนอีกต่อไป แล้วพาไปดูออฟฟิศประจำประเทศอินโดนีเซีย ประเทศที่โลกรู้ดีว่า หากใครจะทำธุรกิจเกี่ยวกับ E- commerce ต้องห้ามพลาด จำเป็นต้องขยายไปอินโดนีเซีย ทีม Priceza มีวิธีการในการบริหารงานต่างประเทศอย่างไร พวกเขาฝ่าฟันอะไร

Startup-Journey-Computerlogy-353x199-1

Startup Journey : Computerlogy

Startup Journey : Computerlogy

ติดตามการเดินทางของสตาร์ตอัปรุ่นบุกเบิกของประเทศไทย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแปลงข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย จาก Facebook Twitter YouTube และ Blog ต่าง ๆ ที่เราเสียเวลากับมันไปมากมายให้เป็นมูลค่า กับสตาร์ทอัพที่มีชื่อว่า Computerlogy พวกเขาเป็นกลุ่มวิศวกรไทย ผู้พัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย (Social Enable 4.0) ให้สามารถทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแม่ทัพใหญ่สาย Developer คุณกั๊ก วัชระ เอมวัฒน์ CEO และ Co-founder ของ Computerlogy และยังควบอีกตำแหน่งนายกสมาคม Thailand Tech Startup มาร่วมแบ่งบันไอเดียการขยายไปต่างประเทศในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือการรวมกิจการเข้ากับบริษัทใหญ่ที่มีฐานอยู่ในต่างประเทศอยู่แล้ว และเหินฟ้าไปรวมกิจการที่เกาหลีใต้ เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ออปป้าและ K-pop แต่ผู้คนยังทันสมัยเท่าทันเทคโนโลยี เกาหลีใต้จึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการเติบโตของสตาร์ทอัพสูง และเป็นเหตุผลที่หนุ่มสายเลือดไทยที่แม้หน้าตาไม่ออปป้า เลือกที่จะร่วมงานกับบริษัทดิจิทัลยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่าง YDM ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Yellow Mobile Group ซึ่งเป็นดำเนินธุรกิจด้านสื่อโมบายในประเทศเกาหลีใต้ที่มีบริษัทในเครือกว่า 70 บริษัทที่เชี่ยวชาญในธุรกิจหลัก 5 หมวด ได้แก่ ชอปปิง, มีเดียและคอนเทนต์, โฆษณาและการตลาดดิจิทัล, การท่องเที่ยว, และบริการแบบ O2O  ปัจจุบัน YDM มีบริษัทพันธมิตร 22 บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันประกอบไปด้วย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม และอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาหลังจากนี้ บริษัทมีพนักงานกว่า 1,700 คน และให้บริการกับลูกค้ากว่า 5,000 บริษัท Computerlogy จึงเลือกมองจุดแข็งของตัวเองและเลือกที่จะเป็น Hub ของนักพัฒนา (Developer) ที่พัฒนาเทคโนโลยีให้บริษัทในเครือ YDM ที่อยู่ในทั่วทั้งเอเชีย และร่วมกันพัฒนาสิ่งที่จะแก้ปัญหาคนระดับโลกได้ อะไรอยู่เบื้องหลังแนวคิดของการรวมบริษัท ทำอย่างไรนักพัฒนาโปรแกรมไทยจากศรีราชาจึงก้าวไปในระดับโลกได้

startup-coaching-chuay-kan-2

Startup Coaching : สตาร์ทอัพทีม Chuay kan (ช่วยกัน) ตอน 2

Startup Coaching : สตาร์ทอัพทีม Chuay kan (ช่วยกัน) ตอน 2

หลังจากที่ทีมช่วยกันได้จำลองเหตุการณ์เป็นผู้พิการก็ทำให้ทีมได้เรียนรู้ว่าการให้บริการผู้พิการสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีทักษะการดูแลช่วยเหลือ ซึ่งพวกเขาก็ต้องไปหาคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และก็มาถึงภารกิจสำคัญที่จะชี้วัดทักษะของทีมว่าจะไปรอดหรือไม่ โคชจึงมอบหมายให้ทีมช่วยกันไปทำหน้าที่ให้บริการผู้พิการรับเชิญ น้องธันย์ ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ ตลอดทั้งวันถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะได้พิสูจน์ศักยภาพของทีมอย่างแท้จริง เหตุการณ์และความตั้งใจดีของทีมช่วยกันจะบรรลุผลอย่างไร

Startup-Journey-Jitta-353x199-1

Startup Journey : Jitta

Startup Journey : Jitta

ถ้าพูดถึงเรื่อง การลงทุน การเล่นหุ้น คนส่วนใหญ่คงจะคิดถึงตารางตัวเลข ข้อมูลหุ้นมากมาย ผู้คนเคร่งเครียดอยู่ในตลาดหุ้นทั้งวันทั้งคืน ถ้าเป็นสมัยก่อนคงเป็นแบบนั้น แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือนักลงทุนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนสามารถหาความรู้เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเล่นหุ้นได้ง่ายขึ้น เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แล้วนักลงทุนจะลดความเสี่ยงได้อย่างไร Startup Journey ตอนนี้ เราจะได้รู้จัก CEO และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ JITTA.COM แพลตฟอร์มการลงทุนแบบเน้นคุณค่าชื่อดังที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศทั่วโลก คุณเผ่า ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO หนุ่มไฟแรงที่มีความฝันสุดท้าทายว่า “อยากทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการลงทุน การเล่นหุ้นที่ดีให้กับคนทั้งโลกใช้ด้วยฝีมือคนไทย” แต่เส้นทางธุรกิจของคุณเผ่าก็ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนกับการเล่นหุ้นเหมือนกัน คุณเผ่าจะเจออุปสรรคอะไร และแก้ไขปัญหาในการก่อตั้ง JITTA อย่างไร อะไรคือเคล็ดลับในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศของ JITTA

startup-coaching-chuay-kan-1

Startup Coaching : สตาร์ทอัพทีม Chuay kan (ช่วยกัน) ตอน 1

Startup Coaching : สตาร์ทอัพทีม Chuay kan (ช่วยกัน) ตอน 1

ทีมช่วยกัน Startup ที่เกิดจากความต้องการอยากเห็นสังคมมีความเท่าเทียม โดยมีไอเดียตั้งต้นจากการหารถให้ผู้พิการได้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกเช่นคนปกติ และก็ถึงเวลาที่ทีมช่วยกันจะได้เจอกับโคชเป็นครั้งแรก ผศ.ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ในวงการ Startup และความเข้มข้นก็ได้เกิดขึ้น เมื่อโคชต้องการคำตอบเกี่ยวกับรายได้ รวมถึงการมอบหมายภารกิจซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่โดยให้ทีมไปต้องจำลองเหตุการณ์เป็นผู้พิการ เพื่อให้เข้าใจปัญหาและอุปสรรคในการเดินทางอย่างแท้จริง

startup-journey-takemetour-2

Startup Journey : TakeMeTour ตอน 2

Startup Journey : TakeMeTour ตอน 2

Startup Journey พบกับ Startup ฝีมือคนไทยผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ takemetour.com กันต่อในตอนที่ 2  จากตอนแรก เราได้เห็นการขยายธุรกิจของ TakeMeTour ที่ขยายธุรกิจไปยังประเทศญี่ปุ่น ด้วยโมเดลธุรกิจการทำ Partnership ที่สามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและต้นทุนที่ต่ำกว่า เนื่องจาก Know-How ต่าง ๆ นั้นเป็นของบริษัท Partner ต่างกับการเปิดตลาดด้วยตนเองที่จำเป็นต้องเรียนรู้และศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งต้องใช้เวลาและมีต้นทุนสูง และในตอนนี้เราจะได้เห็นการขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชาที่ TakeMeTour ได้ขยายตลาดไปต่างประเทศไปด้วยตนเอง ผ่านการสนับสนุนจาก Asian Development Bank ที่ให้การช่วยเหลือในการในการขยายตลาดสู่ประเทศกัมพูชา จากการที่ TakeMeTour ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการฯ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงผ่านการท่องเที่ยว การขยายธุรกิจด้วยตนเองของ TakeMeTour ที่ประเทศกัมพูชา

startup-coaching-gratitude-2

Startup Coaching : สตาร์ทอัพทีม Gratitude ตอน 2

Startup Coaching : สตาร์ทอัพทีม Gratitude ตอน 2

หลังจากที่ทีม Gratitude ได้ทำตามภารกิจที่โคชเจงมอบหมายให้ ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขามองเห็นกลุ่ม Target ของตัวเองชัดเจนยิ่งขึ้น และขั้นตอนต่อไป โคชเจงเล็งเห็นว่าทีมต้องรู้จักคู่แข่งของพวกเค้าให้มากขึ้น ซึ่งก็คือภารกิจที่ทั้งโคชและทีมต้องทำการวิเคราะห์อาหารสุขภาพที่มีอยู่ในท้องตลาดร่วมกัน และยังมีภารกิจหลักใหญ่ที่สำคัญที่ทีมจะต้องไปทดลองทำเมนูอาหารสำหรับผู้สูงอายุ ที่ต้องทั้งมีประโยชน์ และที่สำคัญต้องอร่อยด้วย สถานการณ์และบทสรุปของทีม Gratitude

 
startup-journey-takemetour-1

Startup Journey : TakeMeTour ตอน 1

Startup Journey : TakeMeTour ตอน 1

พบกับสตาร์ทอัพฝีมือคนไทยผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ takemetour.com สตาร์ทอัพด้านการท่องเที่ยวของไทยที่กำลังมาแรงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ TakeMeTour เปรียบเสมือน Marketplace หรือ ตลาดกลางสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการหา Local Expert พาเที่ยวในมุมมองใหม่ ๆ ไม่เหมือนการท่องเที่ยวแบบเดิม ๆ ที่สำคัญเราจะได้รู้ว่าการก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพพัฒนาธุรกิจอย่างไร และขยายธุรกิจในต่างประเทศหลากหลายรูปแบบ ผ่านมุมมองและประสบการณ์ตรงจาก CEO และ Co-founder นั่นก็คือคุณทาโร่และคุณนพ ทั้ง 2 คน มีวิธีคิดและลงมือสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างไร